เมื่อพูดถึงโลโก้ แน่นอนว่าแบรนด์ธุรกิจ ย่อมให้ความสำคัญกับดีไซน์ สี หรือฟอนต์ แต่สิ่งหนึ่งที่หลายแบรนด์มักมองข้ามก็คือ “ขนาดโลโก้” ซึ่งมีผลโดยตรงต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์ทั้งในโลกออนไลน์และออฟไลน์ โดยเฉพาะเมื่อต้องพิมพ์สติกเกอร์โลโก้ สำหรับนำไปติดบนวัสดุต่างๆ
แล้วแบรนด์ธุรกิจควรพิมพ์สติกเกอร์โลโก้ขนาดไหนดี ถึงจะเหมาะกับสินค้าและช่วยให้ลูกค้าจดจำแบรนด์ได้ง่ายขึ้น ไปอ่านกันเลย!

ทำไม “ขนาดของโลโก้” ถึงมีความสำคัญ ?
เพราะ “โลโก้” คือ สิ่งแรกๆ ที่ลูกค้าจะมองเห็น และเป็นกุญแจสำคัญในการจดจำแบรนด์ได้ หากพิมพ์สติกเกอร์โลโก้เล็กเกินไป โลโก้ก็อาจไม่สะดุดตา แต่ถ้าใหญ่เกินไป ก็อาจดูเทอะทะและไม่สวยเวลาติดอยู่บนตัวสินค้านั่นเอง
ขนาดโลโก้ที่เหมาะกับการใช้งานแต่ละประเภท
โลโก้ สามารถนำไปปรับใช้ได้ในหลายวัสดุ พื้นผิว หรือในหลายช่องทาง ตัวอย่างเช่น
1. บนสินค้าและบรรจุภัณฑ์
การเลือกติดสติกเกอร์โลโก้ที่มีขนาดพอดีและเหมาะสม จะช่วยดึงดูดความสนใจและกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้
โดยสินค้าขนาดเล็ก เช่น แก้วน้ำ แก้วกาแฟ ขวดน้ำหอม หรือผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง นิยมเลือกใช้สติกเกอร์โลโก้ เช่น ขนาด 2×2 นิ้ว หรือ 1×3 นิ้ว หรือเลือกขนาดให้พอดี ดูสมดุลกับตัวสินค้า สติกเกอร์โลโก้ขนาดเล็กช่วยให้สินค้าดูพรีเมียม เรียบหรู และเมื่อพิมพ์ด้วยเทคนิคพิเศษ ยังช่วยเพิ่มมูลค่าและแรงจูงใจในการซื้อได้อีกด้วย!

สำหรับสินค้าขนาดกลาง เช่น กล่อง Snack Box ถุงกระดาษใส่อาหาร ก็สามารถเลือกติดสติกเกอร์ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาอีกนิด เช่น ขนาด 3×4 นิ้ว, 5×7 นิ้ว หรือขนาดที่ดูไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป โดยสามารถใส่รายละเอียดของโลโก้ เช่น ลวดลาย สัญลักษณ์ ตัวอักษร ได้ครบถ้วนและชัดเจนยิ่งขึ้น
หากจะทำสติกเกอร์โลโก้ สำหรับแปะติดบรรจุภัณฑ์ ควรเผื่อระยะขอบ (Margin) อย่างน้อย 2 – 3 มิลลิเมตร เพื่อป้องกันไม่ให้โลโก้ชิดขอบจนโดนตัด และช่วยให้ชิ้นงานดูสวยงามยิ่งขึ้น
2. บนสื่อออนไลน์
เมื่อแบรนด์ต้องนำโลโก้ไปใช้ในช่องทางออนไลน์หรือช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ก็ควรปรับไซซ์ให้เหมาะสมเช่นเดียวกัน โดยแนะนำให้เซฟโลโก้ เป็นไฟล์ .PNG พื้นหลังโปร่ง เพื่อให้นำไปใช้ได้หลากหลายและไม่ต้องแก้ไขทุกครั้งที่ต้องใช้งาน
- Facebook / Instagram Profile Picture แนะนำให้ใช้ขนาด 320×320 px เพื่อให้ได้ภาพคมชัดที่สุด ไม่ว่าลูกค้าจะเปิดดูจากอุปกรณ์ไหนก็ตาม
- YouTube Profile Picture แนะนำให้ใช้ขนาด 800×800 px ซึ่งรูปโปรไฟล์ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่สามารถสร้างการจดจำได้เป็นอย่างดี แบรนด์จึงควรให้ความสำคัญเช่นเดียวกัน
- Website ขนาดโลโก้ที่แนะนำสำหรับเว็บไซต์จะมีหลายขนาด ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของโลโก้ในเว็บไซต์นั้นๆ เช่น โลโก้แนวนอน 250×150 px โลโก้สี่เหลี่ยมจตุรัส 160×160 px และอีกตำแหน่งคือ Favicon หรือโลโก้เล็กๆ ที่จะแสดงอยู่บนแถบเบราว์เซอร์ แนะนำให้ใช้ขนาด 16×16 px
3. บนสื่อโฆษณาและป้ายประชาสัมพันธ์
สำหรับงานพิมพ์สติกเกอร์โลโก้ขนาดใหญ่ เช่น ป้ายหน้าร้าน หรือแบนเนอร์ ควรออกแบบโลโก้เป็นไฟล์ Vector (.AI, .PDF, .SVG) เพื่อไม่ให้ไฟล์แตกเมื่อขยายโลโก้ ส่วนขนาดจะขึ้นอยู่กับพื้นที่ใช้งาน แต่ก็อย่าลืมคงอัตราส่วนของโลโก้ให้เหมือนเดิมด้วยนะ

วิธีปรับโลโก้ให้เหมาะกับทุกแพลตฟอร์ม
1. เตรียมโลโก้หลายเวอร์ชันไว้ใช้งาน
เช่น โลโก้แนวนอน โลโก้แบบย่อ หรือโลโก้สำหรับสติกเกอร์ขนาดเล็ก เพื่อให้ใช้งานได้หลากหลาย แต่ยังคงเอกลักษณ์ของแบรนด์ไว้เหมือนเดิม
2. ทดสอบก่อนพิมพ์จริง
หากต้องการพิมพ์สติกเกอร์โลโก้ ควรลองพิมพ์ตัวอย่าง 2 – 3 ขนาด เพื่อดูว่าสัดส่วนไหนพอดีและมองเห็นชัดบนสินค้าจริง
3. เลือกใช้บริการร้านพิมพ์มืออาชีพ!
เพราะร้านที่เชี่ยวชาญด้านการทำสติกเกอร์โลโก้ จะช่วยแนะนำขนาดไฟล์และวัสดุที่เหมาะกับการใช้งานได้แบบละเอียด พร้อมช่วยเซฟเวลาและค่าใช้จ่ายต่างๆ!
ไม่ว่าจะอยากทำสติกเกอร์โลโก้ สำหรับสินค้าชิ้นเล็กๆ หรือพิมพ์สติกเกอร์ขนาดใหญ่ สำหรับแคมเปญการตลาด “Multicolor Lab” พร้อมผลิตให้ครบจบในที่เดียว! เราเลือกใช้เฉพาะวัสดุคุณภาพ พิมพ์คมชัด สีสวย ตรงเวลา แถมมีบริการออกแบบสติกเกอร์ราคาฟรี! อยากได้งานดี ราคาโดน ทักมาได้เลย!
Multicolor Lab
โทร. : 061-491-9051
E-Mail: Order@multicolor-lab.com
Facebook Page: Multicolor Lab พิมพ์ ครบ จบที่เดียว จัดส่งทั่วประเทศ (https://www.facebook.com/multicolorlab.print)
Line: @multicolorlab (https://line.me/ti/p/~@multicolorlab)







