Blog

ออกแบบบรรจุภัณฑ์อย่างมืออาชีพ เคล็ดลับสร้างความประทับใจลูกค้า

เคล็ดลับออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้ลูกค้าประทับใจ

“แพคเกจจิ้ง” ไม่ได้เป็นแค่หีบห่อสำหรับใส่สินค้า แต่เปรียบเสมือนเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย ที่สะท้อนถึงค่านิยม ความสนใจ และบุคลิกภาพของคนนั้น คล้ายกับแพคเกจจิ้ง ที่สะท้อนอัตลักษณ์และภาพลักษณ์ของแบรนด์

ในยุคปัจจุบัน เราปฏิเสธไม่ได้เลยว่า “แพคเกจจิ้ง” เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ดึงดูดให้หยิบสินค้าสักชิ้นนึงขึ้นมาดู และจ่ายเงินโดยทันที เพียงเพราะมันสวย เก๋ มีสไตล์ สร้างความประทับใจแม้ยังไม่เคยใช้งาน หรือยังไม่ได้เปิดดูสินค้าข้างในด้วยซ้ำ ทั้งที่มีสินค้าประเภทเดียวกันเรียงรายเป็นตับ แต่กลับโดดเด่นเหนือแบรนด์คู่แข่งด้วย “แพคเกจจิ้ง”

วันนี้เราจะมาพูดถึงการออกกล่องแพคเกจจิ้งให้จึ้ง ออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้โดดเด่น เป็นที่จับตามอง และมีจุดยืนในสายตาลูกค้า พร้อมเคล็ดลับในการออกแบบเจ๋งๆ มาฝากทุกคน ไปดูกันเลยค่า~

องค์ประกอบสำคัญ ที่ต้องรู้ ก่อนออกแบบบรรจุภัณฑ์

  1. สีของบรรจุภัณฑ์ – จะช่วยเพิ่มการจดจำแบรนด์ได้ถึง 80% เช่น สีแดง เราจะนึกถึง Coca-Cola, Netflix, H&M หรือ ฟ้า เราจะนึกถึง IKEA, Dell, Facebook เป็นต้น
  2. โลโก้และกราฟิก – อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้ภาพรวมชัดเจนขึ้น คือโลโก้และ Element อื่นๆ หากเอามารวมกับสีของบรรจุภัณฑ์ ก็ช่วยเพิ่มการจดจำได้มากทีเดียว
  3. ฟอนต์และ Tagline – ฟอนต์ที่อ่านง่าย เป็นเอกลักษณ์เฉพาะแบรนด์ และสโลแกนที่สั้น กระชับ จับใจ ช่วยให้ลูกค้าจำแบรนด์ได้เร็วขึ้น เช่น กาแฟเบอร์ดี้…ที่หนึ่งในใจคุณ การบินไทย…รักคุณเท่าฟ้า โก๋แก่…มันทุกเม็ด เป็นต้น
  4. รูปร่าง และดีไซน์บรรจุภัณฑ์ – บรรจุภัณฑ์ที่มีรูปร่างแตกต่างจากคู่แข่ง เช่น ขวดโคคาโคล่าที่มีเอกลักษณ์ Shape ของขวดที่ไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใคร ตั้งไว้แบบไม่ใส่โลโก้คนก็จำได้ หรือแแพคเกจจิ้งของ Pringles ที่เป็นกระบอก ต่างจากเลย์ที่เป็นห่อ ทำให้คนจำได้ว่ามันฝรั่งทอดกรอบที่มีบรรจุภัณฑ์เป็นกระบอก คือ Pringles
  5. เนื้อสัมผัส วัสดุ และกิมมิค – เนื้อสัมผัสของบรรจุภัณฑ์ รวมถึงแพทเทิร์นการเปิดกล่อง จะช่วยสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้ลูกค้าได้เช่นกัน เช่น การใช้วัสดุพิเศษ หรือการใช้เทคนิคพิเศษอย่าง เช่น การปั๊มนูน การปั๊มฟอยล์

เทคนิคการออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้โดดเด่น

เทคนิคการออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้โดดเด่นและดึงดูด

  1. การออกแบบบรรจุภัณฑ์จะต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกับ Brand CI เช่น สี โลโก้ ฟอนต์ และ Mood & Tone โดยรวมของแบรนด์ ซึ่งต้องชัดเจนก่อนก่อนที่จะสร้าง Touch point ใดๆ เพื่อลดความเสี่ยงในการเสียทั้งเวลา และงบประมาณในภายหลัง อาจต้องสร้าง Corporate Identity ให้เห็นภาพชัดเจนก่อน
  2. องค์ประกอบอื่นๆ ที่ใช้ต้อง Align ไปกับ CI ของแบรนด์ ถึงแม้ว่าจะมีบ้างที่มีแพคเกจจิ้ง Limited Edition แต่ก็ต้องไม่ละทิ้งความเป็นแบรนด์ไว้ข้างหลัง อยากเป็นที่น่าจดจำ ต้องใช้ CI ให้เป็นประโยชน์
  3. ฟอนต์ในบรรจุภัณฑ์ต้องอ่านง่าย และอ่านออกในทันที แม้มองผ่านๆ บน Shelf ขายสินค้า ตัวอักษรบนแพคเกจจิ้งต้องโดดเด่น ตัวใหญ่ ไม่ทำให้ลูกค้าต้องเพ่งอ่าน
  4. ใช้วัสดุที่มีคุณภาพสูง ไม่ก๊องแก๊ง มองด้วยตาเปล่าอาจไม่รู้ แต่พอสัมผัสดู ลูกค้าจะทราบถึงมาตรฐานของวัสดุ ซึ่งคุณภาพเป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการสร้างความประทับใจสร้างความรู้สึกพิเศษให้กับลูกค้า และช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าได้ด้วยค่ะ
  5. ผิวสัมผัสที่ต่างออกไป การใช้เทคนิคพิเศษ เช่น การปั๊มนูน เคลือบเงา หรือการพิมพ์ลาย UV ทำให้บรรจุภัณฑ์ดูมีมิติและหรูหราขึ้น
  6. เพิ่มลูกเล่นพิเศษในการเปิด – ปิดกล่อง การเปิดปิดกล่องที่แตกต่างจากแบรนด์อื่น เช่น กล่องแบบสไลด์ แบบฝาครอบ แบบหมุน แต่ต้องยังมีความง่ายต่อการใช้งาน การออกแบบกล่อง หรือซองที่เปิด – ปิดสะดวก และสามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ การทำให้การแกะกล่องเป็นเรื่องสนุก จะช่วยเพิ่มความตื่นตาตื่นใจให้ลูกค้าได้ดี จึงควรออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีลูกเล่นที่น่าสนใจ
  7. สะท้อนถึงอารมณ์และความรู้สึก บรรจุภัณฑ์ที่นำเสนอเรื่องราวของแบรนด์ มี Story Telling ที่ดี สะท้อนความเป็นแบรนด์ได้ครบถ้วน และเป็นบรรจุภัณฑ์ที่เชื่อมโยงระหว่างแบรนด์กับลูกค้าได้
  8. Be Trendy เสมอ แพคเกจจิ้งที่ดีต้องทันสมัยอยู่เสมอ อาจไม่ใช่การเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ทุก Quater แต่เป็นการสร้างความตื่นเต้นให้กับลูกค้าด้วยแพคเกจจิ้ง Limited Edition การ Re-packaging ที่ 10 ปีมีครั้ง หรือการทำแพคเกจจิ้งแบบ Personalization ก็จะช่วยเพิ่มความน่าสนใจ และดึงดูดให้ปิดการขายได้ง่ายขึ้น
  9. ความเหมาะสมกับโปรดัค วัสดุ และรูปแบบของบรรจุภัณฑ์ต้องปกป้องสินค้าได้ดี สะดวกต่อการใช้งาน บรรจุภัณฑ์ กับสินค้ามีดีไซน์ที่สอดคล้องกัน เป็นเรื่องราวเดียวกัน
  10. ข้อมูลครบ บรรจุภัณฑ์ควรมีข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับสินค้า ชื่อโปรดัค ส่วนผสมหรือส่วนประกอบ วิธีใช้ คุณสมบัติ แหล่งผลิต ที่มาของสารสกัด วิธีการเก็บรักษาสินค้า ฯลฯ
  11. ผสมผสานความยั่งยืน แพคเกจจิ้งแบบ Sustainable กำลังมาแรงในกลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่ๆ ที่รักในการอุดหนุนแบรนด์ที่ยั่งยืน เพราะรู้สึกเบาใจมากกว่าที่สินค้าที่ตนใช้จะไม่ทำลายโลก และชื่นชอบที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสิ่งแวดล้อมด้วย การออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่ถูก Upcycle หรือ Recycle จะเป็นที่น่าจับตามองมากๆ ในยุคนี้ค่ะ

กระบวนการผลิตบรรจุภัณฑ์

ข้อควรคำนึงในกระบวนการผลิตบรรจุภัณฑ์

  1. ต้นทุนและงบประมาณ ต้องคำนวณต้นทุนการผลิตให้เหมาะสมกับราคาขายของสินค้า
  2. มาตรฐานการรองรับ บรรจุภัณฑ์ต้องเป็นไปตามกฎหมาย และมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง เช่น อย. หรือมาตรฐานสากล
  3. ความคงทนของแพคเกจจิ้ง ควรเลือกโรงงานผลิตแพคเกจจิ้งที่ใช้วัสดุคุณภาพดี ทนทานต่อการใช้งาน ทนทานต่อการขนส่ง
  4. กระบวนการผลิต เลือกโรงงานผลิตที่มีมาตรฐาน ตรวจสอบกระบวนการพิมพ์ สี หมึก หรือเทคนิคที่ใช้ให้เหมาะสม ประเมินปริมาณการผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการของแบรนด์

บรรจุภัณฑ์ที่สวยจะเปล่าประโยชน์ หากลูกค้าแค่ดู…แต่ไม่หยิบไปชำระเงิน “บรรจุภัณฑ์ที่ดี” จึงต้องมีองค์ประกอบรวมกันหลายอย่าง ที่ทั้งทัชใจ ทัชไลฟ์สไตล์ สะท้อนภาพลักษณ์ผู้ใช้งาน รวมถึงต้องขายตัวมันเองได้แม้จะตั้งอยู่บนเชลฟ์เฉยๆ

สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับแบรนด์จึงคือการเลือกโรงงานพิมพ์แพคเกจจิ้งที่มีความเชี่ยวชาญในการออกแบบ มีมาตรฐานการผลิต ให้ออกมาตรงใจ ตอบโจทย์ CI ของแบรนด์ รวมถึงช่วยออกแบบกล่อง ออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้ออกมาสมบูรณ์แบบ ช่วยเพิ่มมูลค่าให้สินค้า และมอบประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

หากแบรนด์กำลังมองหาผู้เชี่ยวชาญด้านงานพิมพ์ Multicolor Lab พร้อมให้บริการออกแบบกล่อง ออกแบบบรรจุภัณฑ์ พร้อมผลิตแบบครบวงจร ด้วยเทคโนโลยีทันสมัย วัสดุคุณภาพ และทีมงานมืออาชีพ สนใจติดต่อเราเพื่อขอคำแนะนำฟรี!


โทร. : 061-491-9051

E-Mail: Order@multicolor-lab.com

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save