ท่ามกลางสินค้านับพันที่แย่งพื้นที่กันบนชั้นวาง “สติกเกอร์ฉลากสินค้า” คืออาวุธลับที่จะช่วยให้ลูกค้าหยุดมองและอยากหยิบสินค้าของคุณขึ้นมาดู การออกแบบฉลากสินค้าให้โดดเด่นจึงไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยงาม แต่คือ “กลยุทธ์ทางการตลาด” ที่ส่งผลโดยตรงต่อการตัดสินใจซื้อ
วันนี้ Multicolor Lab จะมาแชร์เคล็ดลับเลือก “สีและฟอนต์” ที่จะช่วยให้สติกเกอร์ฉลากสินค้าของคุณ ทั้งสะดุดตาตั้งแต่แรกเห็นบ่งบอกตัวตนของแบรนด์ได้อย่างมีเอกลักษณ์กัน!

สีที่ใช่ สื่อสารตัวตนของแบรนด์ได้
สีคือสิ่งแรกๆ ที่ดึงดูดสายตาผู้บริโภคภายในเสี้ยววินาที ดังนั้น การเลือกสีของ สติกเกอร์ฉลากสินค้า จึงควรสะท้อนอารมณ์และบุคลิกของสินค้าให้ออกมาได้มากที่สุด เช่น
- สีแดง สื่อถึงพลัง ความร้อนแรง และความอยากอาหาร เหมาะกับอาหาร เครื่องดื่ม หรือสินค้าแนวเอเนอร์จี
- สีเขียว ให้ความรู้สึกสดชื่น ธรรมชาติ เหมาะกับสินค้าออร์แกนิกหรือสินค้าเพื่อสุขภาพ
- สีชมพูและพาสเทล ให้ความรู้สึกอ่อนโยน เป็นมิตร เหมาะกับผลิตภัณฑ์ความงามหรือของใช้เด็ก
- สีดำและทอง ให้ความหรูหรา พรีเมียม เหมาะกับสินค้าในกลุ่มแฟชั่น เครื่องประดับ เครื่องสำอาง นาฬิกา น้ำหอม หรือสินค้าอิเล็กทรอนิกส์
เคล็ดลับ: ใช้ “สีประจำแบรนด์” เป็นจุดนำสายตา เช่น โลโก้หรือชื่อสินค้า แล้วคุมโทนสีพื้นหลังให้กลมกลืน เพื่อไม่ให้แย่งซีนจุดเด่นหลัก

ฟอนต์ เปรียบได้กับ “เสียง” ของแบรนด์
สไตล์ตัวอักษรหรือฟอนต์ (Font) จะบอกได้ทันทีว่า สินค้าของแบรนด์นั้นๆ มีสไตล์แบบไหน เช่น สนุกสนาน ทันสมัย หรือจริงจัง ฟอนต์ของสติกเกอร์ฉลากสินค้า แบรนด์จึงควรเลือกให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายด้วยเช่นกัน
- ฟอนต์ตัวกลมหรือฟอนต์ลายมือ เหมาะกับสินค้าแนวโฮมเมด คาเฟ่ เบเกอรี่ เพราะให้ความรู้สึกอบอุ่นและเข้าถึงง่าย
- ฟอนต์เรียบ โมเดิร์น (Sans Serif) เหมาะกับสินค้าเทคโนโลยี หรือแบรนด์ที่ต้องการความทันสมัย
- ฟอนต์แบบมีหัว (Serif) เหมาะกับสินค้าที่ต้องการความน่าเชื่อถือ เช่น ผลิตภัณฑ์สุขภาพ อาหารเสริม
อย่าลืมใช้ฟอนต์ตัวหนา เพื่อเน้นจุดขายหรือข้อความที่อยากให้ลูกค้าเห็นชัดๆ เช่น “ลด 50%” หรือ “สูตรใหม่!” และไม่ควรใช้หลายฟอนต์เกินไป เพราะจะยากต่อการจดจำ โดยทั่วไปใช้ฟอนต์เพียง 2 แบบ คือ 1 แบบสำหรับชื่อแบรนด์ และอีกแบบสำหรับดีเทลของสินค้า

ความสมดุล คือหัวใจของดีไซน์ฉลากสินค้า
ไม่ว่าแบรนด์จะใช้สีหรือฟอนต์แบบไหน อีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามคือ “ความสมดุล” เพราะสติกเกอร์ฉลากสินค้าที่ดีนั้น ต้องทั้งอ่านง่ายและดูสะดุดตา เช่น การเว้นช่องว่างรอบโลโก้หรือข้อความหลักให้พอดี และไม่ควรผสมหลายสีเกินไป เพราะอาจทำให้ฉลากสินค้าดูรกเกินไป
วัสดุและเทคนิคพิมพ์ ช่วยให้สีและฟอนต์โดดเด่นขึ้นได้
แม้แบรนด์จะเลือกใช้สีและฟอนต์ได้ดีแล้วก็ตาม แต่หากพิมพ์บนวัสดุที่ไม่ตอบโจทย์ ก็อาจทำให้การพิมพ์สติกเกอร์ฉลากสินค้านั้นเสียของได้ ดังนั้น การเลือกวัสดุสติกเกอร์ฉลากสินค้า จึงสำคัญไม่แพ้ดีไซน์ เช่น
- สติกเกอร์ขาวเงา (PP White) พื้นผิวขาวมันเงา สีสันสดใส เหมาะกับสินค้าที่ต้องการความโดดเด่น ทนความชื้น
- สติกเกอร์ขาวด้าน (PP Matte) พื้นผิวเรียบด้าน ดูเรียบหรู ไม่สะท้อนแสง เหมาะกับสินค้าแนวมินิมอล
- สติกเกอร์ใส (PP Clear) โปร่งใส เห็นพื้นหลังสินค้า เหมาะกับสินค้าขวดแก้วหรือกล่องใส
- สติกเกอร์ฟอยล์เงิน / ฟอยล์ทอง (PET Silver / Gold) พื้นผิวแวววาว เหมาะกับสินค้าพรีเมียมหรือสินค้าแบรนด์หรู

การออกแบบสติกเกอร์ฉลากสินค้าที่ดี เริ่มจาก “เข้าใจตัวตนแบรนด์และกลุ่มเป้าหมายอย่างลึกซึ้ง” เพราะการใส่ใจเลือก ฟอนต์ สี และวัสดุ ไม่เพียงช่วยให้แบรนด์จดจำง่าย แต่ยังเพิ่มโอกาสปิดการขายได้จริง!
สนใจผลิตสติกเกอร์ฉลากสินค้า ให้ตรงใจแบรนด์ มัดใจลูกค้าอยู่หมัด! ทักหา “Multicolor Lab” เราคือมือหนึ่งเรื่องการออกแบบและพิมพ์สติกเกอร์ราคา งานสวย ตรงปก ราคาดี ทีมงานมืออาชีพ ส่งไวตรงเวลา รับคำแนะนำฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย!
Multicolor Lab
โทร. : 061-491-9051
E-Mail: Order@multicolor-lab.com
Facebook Page: Multicolor Lab พิมพ์ ครบ จบที่เดียว จัดส่งทั่วประเทศ (https://www.facebook.com/multicolorlab.print)
Line: @multicolorlab (https://line.me/ti/p/~@multicolorlab)







