“สติกเกอร์ฉลากสินค้า” ถือเป็นหน้าตาของแบรนด์ธุรกิจ ไม่ว่าจะขนาดเล็กหรือใหญ่เลยก็ว่าได้ เพราะมันคือสิ่งแรกๆ ที่ลูกค้าจะเห็น และอาจเป็นตัวกระตุ้นให้ลูกค้าจ่ายเงินซื้อหรือวางกลับที่ชั้นได้เลยทีเดียว
องค์ประกอบสำคัญอย่างหนึ่งที่ทุกธุรกิจไม่ควรมองข้าม นั่นก็คือ “วัสดุของสติกเกอร์ฉลากสินค้า” เพราะวัสดุที่เลือกใช้ ต้องไม่ใช่แค่ดีไซน์สวย แต่ยังต้องคงทน ตอบโจทย์การใช้งาน และต้องสะท้อนภาพลักษณ์ของแบรนด์ได้เป็นอย่างดี

วันนี้ Multicolor Lab จะพาไปรู้จัก สติกเกอร์ฉลากสินค้ายอดนิยม 6 ประเภท ที่แบรนด์ธุรกิจมักเลือกใช้กัน พร้อมเปรียบเทียบข้อดี ความพิเศษ และเคล็ดลับการใช้งานแบบเข้าใจง่าย! ไปอ่านกันเล้ย
1. สติกเกอร์ขาวเงา (PP White)
เป็นสติกเกอร์พื้นขาวมันเงา พิมพ์สีได้ชัดเจน สีสดและสว่าง มีความเงาเล็กน้อยเมื่อโดนแสง
จุดเด่น
- ให้สีสันสดใส สะดุดตา
- ทนต่อความชื้นและน้ำได้ดี
- เหมาะกับงานพิมพ์ที่ต้องการความคมชัดสูง
เหมาะกับการใช้งานแบบไหน?
เหมาะกับแบรนด์ที่อยากให้สินค้า “ดูเด่นทันทีที่มอง” รวมถึงสินค้าที่ต้องแช่เย็น เก็บในพื้นที่ชื้นๆ เช่น สติกเกอร์ฉลากสินค้าที่ติดกับเครื่องสำอาง ขวดน้ำผลไม้ อาหารแช่เย็น หรือสกินแคร์

2. สติกเกอร์ขาวด้าน (PP Matte)
พื้นผิวมีสีขาวเรียบด้าน ไม่สะท้อนแสง ทำให้ได้สติกเกอร์ฉลากสินค้าที่ดูเรียบง่ายและพรีเมียมในเวลาเดียวกัน
จุดเด่น
- ดูเรียบหรู ดูคลีน และมินิมอลอย่างลงตัว
- ไม่สะท้อนแฟลชเวลาถ่ายรูป
เหมาะกับการใช้งานแบบไหน?
แบรนด์ที่อยากให้สติกเกอร์ฉลากสินค้า ดูเรียบง่ายแต่ดูดีมีสไตล์ ตัวนี้บอกเลยว่าตอบโจทย์ ไม่ว่าจะเป็นการแปะติดกับสินค้าสไตล์มินิมอล สกินแคร์ที่อยากได้ลุคสะอาดๆ หรือผลิตภัณฑ์ Handmade สวยๆ

3. สติกเกอร์ใส (PP Clear)
เป็นสติกเกอร์ใส โปร่งแสง เห็นพื้นผิวสินค้าที่อยู่ด้านหลัง
จุดเด่น
- สามารถโชว์พื้นผิวสินค้าของได้
- เพิ่มความพรีเมียม ดูทันสมัย กลมกลืนกับแพ็กเกจ
- กันน้ำ ทนชื้นได้
เหมาะกับการใช้งานแบบไหน?
เหมาะกับแบรนด์ที่อยากโชว์ให้เห็นความสวยงามของตัวสินค้า เช่น แปะติดกับขวดแก้ว กล่องใส แก้วใส ขวดใส่น้ำหอม ขวดน้ำผลไม้

4. สติกเกอร์กระดาษ (PP Paper)
เป็นสติกเกอร์แบบกระดาษ พิมพ์สีได้ดีแต่ไม่กันน้ำ นิยมใช้งานกันอย่างแพร่หลาย
จุดเด่น
- ต้นทุนต่ำ ประหยัดงบ
- พิมพ์สีสันได้ชัดเจน
- เขียนข้อความเพิ่มเติมได้ง่าย
เหมาะกับการใช้งานแบบไหน?
เป็นวัสดุที่นิยมนำมาใช้ทำสติกเกอร์ฉลากสินค้า เนื่องจากใช้งานได้หลายโอกาส โดยเฉพาะสินค้าที่ไม่ต้องสัมผัสกับน้ำหรือความชื้น เช่น แปะติดกล่องขนม กระปุกขนม กล่อง Snack Box

5. สติกเกอร์กระดาษคราฟท์ (PP Paper Kraft)
เป็นสติกเกอร์ที่มีผิวกระดาษเป็นสีน้ำตาลธรรมชาติ ให้ฟีลวินเทจอย่างลงตัว พิมพ์ได้เฉพาะสีเข้มหรือขาว
จุดเด่น
- ให้สินค้าดูมีลุคธรรมชาติ ดูเป็นมิตร (Eco-friendly)
- เหมาะกับสินค้าทำมือ
- ให้ความรู้สึกอบอุ่นเป็นกันเอง
เหมาะกับการใช้งานแบบไหน?
ใช้แปะติดกับสินค้าแนวออร์แกนิค งานแฮนด์เมด หรือสินค้าแนวรักษ์โลกต่างๆ เช่น กล่องสบู่ กล่องแชมพูที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ กล่องเครื่องประดับรีไซเคิล งานไม้ หรือติดบนแพ็กเกจจิงของผักผลไม้ออร์แกนิค
6. สติกเกอร์ฟอยล์เงิน / ฟอยล์ทอง (PET Silver / Gold)
เป็นสติกเกอร์ที่ผ่านการเคลือบหรือปั๊มฟอยล์โลหะบางๆ เพื่อให้เกิดความเงาทั่วทั้งแผ่น
จุดเด่น
- สะท้อนแสงได้ค่อนข้างดี
- ทำให้งานดูมีมิติ น่าซื้อยิ่งขึ้น
- เพิ่มความรู้สึกหรูหราและพรีเมียมให้กับตัวสินค้า
- ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับตัวสินค้าของแบรนด์ธุรกิจ

เหมาะกับการใช้งานแบบไหน?
นิยมติดบนแพ็กเกจจิงหรือสินค้าที่อยากให้ดูหรูหรามากยิ่งขึ้น เช่น ขวดน้ำหอม เครื่องสำอาง กล่องของขวัญ หรือสินค้าที่มีราคาสูงๆ
อยากปั้นแบรนด์ให้ดัง ต้องเลือกสติกเกอร์ฉลากสินค้าที่ปังด้วย! และหากคุณยังลังเลว่าจะเลือกวัสดุแบบไหนดี? หรืออยากได้คำแนะนำด้านการออกแบบ การพิมพ์ และไอเดียสร้างแบรนด์ผ่านสติกเกอร์ฉลากสินค้า “Multicolor Lab” เราคือตัวจริงเรื่องงานพิมพ์ ให้บริการโดยทีมงานมืออาชีพ สร้างสรรค์สติกเกอร์หรือแพ็กเกจจิงได้หลากหลาย ตรงตามความต้องการของแบรนด์คุณ สนใจติดต่อเรา และรับคำแนะนำฟรี!
Multicolor Lab
โทร. : 061-491-9051
E-Mail: Order@multicolor-lab.com
Facebook Page: Multicolor Lab พิมพ์ ครบ จบที่เดียว จัดส่งทั่วประเทศ (https://www.facebook.com/multicolorlab.print)
Line: @multicolorlab (https://line.me/ti/p/~@multicolorlab)